fbpx

สมาธิสั้น (ADHD)

การใช้ Biofeedback กับกลุ่มเด็กสมาธิสั้น (ADHD)

อาการต่างๆของเด็ก ADHD ที่สามารถพัฒนาได้โดยใช้ Biofeedback

อย่างที่ทราบกันว่าสมองคนเรานั้นทำหน้าที่หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมและสั่งการอวัยวะต่างๆ แสดงพฤติกรรม สื่อสาร และ รักษาสมดุลภายในร่างกาย ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรียนหนังสือ หรือ ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม เราจึงเห็นได้ว่าสมองมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามคนบางกลุ่มอาจมีภาวะระบบประสาทที่ซับซ้อนกว่าผู้อื่น จึงทำให้เกิดความบกพร่องในส่วนของพัฒนาการหลายๆด้าน อย่างเช่นอาการของกลุ่มเด็ก ADHD ซึ่งจะพบว่ามีความยากลำบากและอุปสรรคในการใช้ชีวิต ซึ่งปัญหาและความรุนแรงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ

การแบ่งลักษณะของอาการที่ทางศูนย์สามารถพัฒนาได้จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ

อาการขาดสมาธิ (Inattentiveness) โดยสังเกตได้ว่า
– เด็กจะสนใจกิจกรรมที่ทำอยู่เพียงไม่กี่นาที
– ไม่มีความพยายามในการทำงานที่ต้องใช้ทักษะต่างๆ
– ไม่สามารถทำงานที่สั่งได้สำเร็จลุล่วง
– ไม่มีสมาธิในการทำกิจกรรม
– ไม่สามารถตั้งใจฟัง และ เก็บข้อมูลรายละเอียดได้ครบถ้วน
– มีความวอกแวกง่าย
– ขี้ลืม
– สมาธิจะไขว้เขวได้ง่ายหากมีสิ่งมากระทบเพียงเล็กน้อย

Hyperactivity เด็กไม่สามารถอยู่นิ่งและควบคุมตัวเองไม่ได้ โดยสังเกตได้ว่า
– พูดคุยได้ตลอดเวลา พูดไม่หยุด
– เคลื่อนไหวตลอดเวลา
– ไม่สามารถรอได้ในระยะเวลานาน
– ชอบขัดจังหวะเวลาผู้อื่นพูดคุย
– เคาะสิ่งของให้เกิดเสียงดัง
– ทำหลายๆกิจกรรมพร้อมกัน

Impulsivity เด็กจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยไม่ได้ไตร่ตรองหรือนึกคิดก่อน ไม่สามารถรอคอยสิ่งที่ตัวเองอยากได้ แต่ไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ เมื่อมีความไม่พอใจอาจจะทำลายของทันที แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

ทางศูนย์ Neurobalance ได้รวบรวมเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอาการของบุคคลที่มีปัญหา ADHD โดยเทคโนโลยีที่เรานำมาใช้นั้นได้ผ่านการรับรอง และ ปลอดภัยในการนำมาพัฒนาอาการของกลุ่มบุคคลเหล่านี้

ด้วยเทคโนโลยีที่เรานำมาใช้นั้นมีความสามารถที่จะพัฒนาในส่วนต่างๆ ของสมองได้อย่างตรงจุด ซึ่งสัมพันธ์กับการทำงานของระบบสั่งการต่างๆที่สั่งการมาจากสมอง ตัวอย่างเช่น พัฒนาสมองส่วนหน้า จะส่งผลถึงการจัดการ วางแผน (Executive Function) ความเข้าใจ การรับรู้ การแก้ไขปัญหา และ ฯลฯ ซึ่งหากส่วนดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นมาก็จะมีส่วนในการสนับสนุนให้มีสมาธิมากขึ้น จัดการปัญหาและแก้ไขได้ด้วยตนเอง จนบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด

ด้วยหลักการของเราที่นำมาใช้นั้นสามารถลดอาการ และ ฟื้นฟูการทำงานของสมองในจุดต่างๆ ที่สำคัญ
การพัฒนานี้ปราศจากการใช้ยา ซึ่งหมายความว่าผู้เข้ารับบริการจะไม่ได้รับผลข้างเคียงร้ายแรงใดๆ ระหว่างเข้ารับการบริการ

ผลของการพัฒนาด้วยวิธีการนี้จะอยู่ถาวรหรือไม่ ?

ด้วยหลักการของเราคือการสอนสมองให้สามารถเรียนรู้ในการปรับด้วยตัวเอง (Self-Regulation) ไปใน
กรอบทิศทางที่เราสร้างขึ้น ในที่สุดสมองจะเกิดการเรียนรู้ใหม่และพัฒนาไปสู่การทำงานที่ปกติและธรรมชาติมากยิ่งขึ้น จากผลวิจัยที่ได้มีการเก็บตัวอย่างของเด็กจำนวนหนึ่ง มีผลสรุปได้ว่าวิธีการนี้จะสามารถทำให้คงสภาพของการทำงานของสมองได้อย่างต่ำ 3 ปี ทั้งนี้ระยะเวลาคงสภาพขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและคุณภาพของสมองของผู้เข้ารับบริการหลังเข้ารับบริการ

บางคนอาจมองว่าวิธีการของเราคือการ ‘รักษา’ อาการสมาธิสั้น แต่เรามองว่าวิธีการนี้คือการสร้างสมดุลใหม่ให้แก่สมองโดยการปรับเปลี่ยนและควบคุมจากตัวเองจากภายในเมื่อสมองมีความสมดุลและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น อาการต่างๆก็ลดน้อยลง

ขั้นตอนการเข้ารับบริการ

หลังจากท่านได้รับคำปรึกษาเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญของ Neurobalance และมั่นใจว่าวิธีการนี้จะสามารถพัฒนาได้ โปรแกรมที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการจะถูกสร้างขึ้นเฉพาะบุคคล วิธีการของเราประกอบไปด้วยโปรแกรม Neurobalance และ Biobalance ที่ใช้ในการปรับสมดุล และเมื่อจบคอร์สผู้เข้ารับบริการจะได้รับการประเมินอีกครั้งนึง เพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังเข้ารับบริการ

 

ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของวิธีการได้ที่

โปรแกรม Neuro Balance

โปรแกรม Bio Balance

ทาง Neurobalance ยินดีที่จะให้คำปรึกษาและคำแนะนำในการพัฒนากลุ่มเด็ก ADHD ด้วยวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีแก่พวกเขา

หากมีข้อสงสัยหรือคำถามในตัววิธีการของ Neurobalance สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่เบอร์ 02 245 4227 หรือ LINE: @neurobalance, ผู้สนใจสามารถนัดเข้ามารับคำปรึกษาเบื้องต้นฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และ ข้อผูกมัดใดๆ

หนึ่งในลูกค้าของเราที่พูดถึงพัฒนาการของลูกหลังเข้ารับการฟื้นฟูกับทางศูนย์ Neurobalance