fbpx

อาการวิตกกังวล (Anxiety)

เมื่อเราต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เราไม่คุ้นเคย หรือเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบทางด้านลบต่อร่างกายและจิตใจ จนทำให้เกิดอาการวิตกกังวล เครียด กระวนกระวายใจ ตื่นตระหนก หรือ เกิดความกลัว ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นกลไกการปรับตัวต่อการเผชิญกับเหตุการณ์หรือสิ่งเร้า (Adaptive response) เพื่อให้เราเตรียมตัวหาทางหรือวิธีรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการทำงานของกลไกนี้มี “สมอง” เป็นตัวกลางสำคัญในการควบคุม

“อาการวิตกกังวล” เป็นหนึ่งในกลไกการตอบสนองของร่างกายและจิตใจอย่างหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ถ้าอยู่ในระดับเล็กน้อยและปานกลาง ช่วยให้เรามีความกระตือรือร้น ตื่นตัว และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาตนเอง แต่อาการวิตกกังวลในระดับที่รุนแรงหรือมากเกินไป ก็ส่งผลกระทบด้านลบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้

อาการวิตกกังวลที่มากเกินไป มักมีลักษณะอาการดังนี้

– มีอาการรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีสิ่งมากระตุ้น
– มีอาการเป็นอยู่นานเกินไปหรืออาการที่เกิดขึ้นยังคงอยู่แม้สิ่งกระตุ้นหรือเหตุการณ์ต่างๆได้ผ่านไปหมดแล้ว
– อาการที่เป็นอยู่ ส่งผลกระทบต่อการเรียน การทำงาน การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น และรบกวนกิจวัตรประจำวัน เนื่องจากต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างเพื่อลดความวิตกกังวล

โดยอาการวิตกกังวลที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงการทำงานของ “ระบบประสาทอัตโนมัติ” และ “ต่อมไร้ท่อ” ซึ่งจะแสดงออกทางด้านร่างกาย และด้านจิตใจ ดังนี้

การแสดงออกทางด้านร่างกาย (Physiology manifestation) การแสดงออกทางด้านจิตใจ (Psychosocial manifestation)
ใจสั่น ใจเต้นเร็ว
มีอารมณ์หงุดหงิด โกรธง่าย
หายใจลำบาก มีอาการหอบ
หวาดระแวง คิดซ้ำๆ มองโลกในแง่ร้าย
ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ
ไม่มีสมาธิ คิดอะไรไม่ออก ขาดความคิดริเริ่ม ความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผลลดลง
ถ่ายบ่อย ปัสสาวะบ่อย
ความสามารถในการแก้ปัญหาลดลง การตัดสินใจไม่ดี
นอนไม่หลับ หลับยาก หรือ หลับไม่สนิท
ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง เบื่อหน่าย สิ้นหวัง รู้สึกตนเองไร้ค่า
ชาปลายมือปลายเท้า
การรับรู้ช้า ผิดพลาด
ปวดเกร็งตามกล้ามเนื้อ
เริ่มแยกตัวออกจากสังคม
เหงื่อออกตามฝ่ามือฝ่าเท้า
ก้าวร้าว
ปากแห้ง
พูดเยอะหรือไม่พูดเลย
มีการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือน สมรรถภาพทางเพศลดลง

สาเหตุของอาการวิตกกังวล

สาเหตุของการเกิดอาการวิตกกังวลนั้นสามารถเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะมาจาก พันธุกรรม, เหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ, บุคลิกภาพ, สภาพแวดล้อม, ปัญหาด้านสุขภาพ หรือ ความผิดปกติในระบบประสาทและโครงสร้างของสมอง ดังนั้นหากเราสามารถควบคุมและบริการจัดการอารมณ์วิตกกังวลได้เมื่อเจอสิ่งกระตุ้นต่างๆ ก็คงจะดีไม่น้อย ในปัจจุบันแนวทางการรักษาอาการวิตกกังวลนั้นมีหลากหลายวิธี

แนวทางการแก้ไขอาการวิตกกังวล

– การบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive behavioral therapy หรือ CBT) หรือ ที่เรียกว่า “การบำบัดโดยการพูดคุย” หรือการให้คำปรึกษา โดยมีเป้าหมายเพื่อหาแนวทางแก้ไขและจัดการกับอารมณ์ในทางลบของมนุษย์ ด้วยการปรับเปลี่ยนความคิด (cognitive) และพฤติกรรม (behavioral) การบำบัดมีลักษณะเน้นที่ปัจจุบัน เจาะจงปัญหาที่ชัดเจน มีการกำหนดเป้าหมายในการบำบัดอย่างเป็นรูปธรรม เน้นความร่วมมือของผู้รับการบำบัดเพื่อนำไปสู่การฝึกฝนทักษะในการจัดการกับปัญหาของตนเองให้ได้ดียิ่งขึ้น

– การใช้ยาเพื่อรักษาอาการวิตกกังวล (Medications) ในผู้ที่มีอาการรุนแรงบางราย อาจต้องใช้ยาเข้ามาช่วยด้วย เช่น ยาคลายกังวล ยาต้านเศร้า ยาช่วยควบคุมอาการทางร่างกายเมื่อมีความวิตกกังวล เช่น ใจสั่น มือสั่น หรือยาอื่น ๆ เช่น ยารักษาโรคลมชัก และยาระงับอาการทางจิต

– การปรับด้วยวิธีการ Neurofeedback ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาวิตกกังวลและต้องการลดอาการเหล่านี้โดยไม่ประสงค์ที่จะใช้ยา หรือการถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้า หากจะอธิบายวิธีการของ Neurofeedback นั้น สามารถมองได้ว่าคือการสอนสมองให้จัดเรียงรูปแบบการเชื่อมต่อในการสื่อสารของระบบไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น โดยโปรแกรมฝึกจะถูกสร้างขึ้นให้เหมาะสมและสอดคล้องกับรูปแบบกิจกรรมสมองของบุคคลนั้นๆ เมื่อสมองสามารถทำงานได้มีประสิทธิมากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมาก็จะส่งผลให้ อาการวิตกกังวลน้อยลง, ไม่คิดมาก, คิดเป็นระบบมากขึ้น, การเกร็งของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ลดลง, นอนหลับลึกขึ้น, สารสื่อประสาทในสมองมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือสามารถควบคุมตัวเองได้เมื่อเผชิญกับสภาวะหรือแรงกระตุ้นจากปัจจัยต่างๆที่ทำให้เกิดอาการวิตกกังวล

วิธีการ Neurofeedback ได้นำมาใช้กับผู้ที่มีอาการวิตกกังวล และได้ศึกษาพบว่าวิธีการนี้สามารถช่วยลดอาการวิตกกังวล และ ซึมเศร้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ท่านสามารถอ่านงานวิจัยนี้ได้ที่

Hammond, D. (2005). Neurofeedback Treatment of Depression and Anxiety. Journal of Adult Development. 12. 131-137. 10.1007/s10804-005-7029-5.

ศูนย์ Neurobalance ได้ผสานวิธีการของ Neurofeedback และ เทคโนโลยีที่ปรับสมดุลร่างกายและสมองแบบองค์รวม เพื่อมาช่วยในการแก้ไขอาการวิตกกังวล ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของวิธีการที่ทางศูนย์นำมาให้บริการได้

โปรแกรม Neuro Balance
โปรแกรม Bio Balance

หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังมองหาทางเลือกใหม่ในการแก้อาการวิตกกังวลอย่างมีประสิทธิภาพสามารถติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

02 245 4227 หรือ LINE: @neurobalance ผู้สนใจสามารถนัดเข้ามารับคำปรึกษาเบื้องต้นฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และ ข้อผูกมัดใดๆ